วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560

Diverging

         จริงๆ Indicators ส่วนมากเกือบ 90% ล้วนมาจาก Price โดยเป็นการนำข้อมูลของราคามาผ่านสูตรของแต่ละเครื่องมือนั้นๆ และได้ค่าใหม่ขึ้นมา ซึ่งต้องบอกว่ามันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการดู Price เปล่าๆ เลย แต่หัวใจสำคัญของ Indicators นั้นมันทำให้เราอ่านกราฟง่ายขึ้น มีตัวเลขออกมาอย่างชัดเจน สามารถรู้ได้ว่าตอนนี้ Momentum , ความผันผวน , แนวโน้ม ต่างๆเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าเราเข้าใจกลไลของ Indicator ที่ใช้ และใช้มันอย่างเหมาะสม มันจะมีประโยชน์มากในการเทรด


            มาเข้าเนื้อหาของ Divergence กันต่อดีกว่า Divergence เป็นสัญญาณที่ ราคา กับ Indicator เคลื่อนไหวสอดคล้องกัน โดย Divergence ทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
  1. Positive divergence – ราคาทำ Lower Low แต่ Indicator ทำ Higher Low
                                               สัญญาณว่าราคามีโอกาสหยุดลงชั่วคราว หรือกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น
          2 Negative divergence – ราคาทำ Higher High แต่ Indicator ทำ Lower high    
                                                    สัญญาณว่าราคามีโอกาสหยุดขึ้นชั่วคราว หรือกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง

            มาดูตัวอย่างการเทรดโดยใช้ Divergence กันดีกว่า

Positive divergence

            ราคาทำ Lower Low แต่ Indicator (ในที่นี้ใช้ RSI) กลับทำ Higher Low แสดงถึง Momentum การลงเริ่มอ่อนแรง และสุดท้ายราคาก็กลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้นในรอบใหญ่เลยทีเดียว

Negative Divergence

            จากกราฟข้างต้นนี้ราคาได้เกิด Negative divergence ถึง 2 รอบ ลักษณะเช่นนี้ยิ่งมีนัยสำคัญในการกลับตัวมากขึ้น ราคาได้ทำ Higher High ขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ RSI กับทำ Lower High อย่างต่อเนื่องเช่นกัน และสุดท้ายราคาก็กลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้นดังที่ปรากฏ

            ซึ่งการดู Divergence ประกอบการเทรด ก็จะสามารถช่วยให้การเทรดของเรามีโอกาสการชนะมากยิ่งขึ้น ทำให้เราเข้าออกอย่างมีประสิทธิภาพ

ทีมงาน : thaiforexbroker.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น