ทุกรูปแบบการเทรด ไม่ว่าจะใช้แนวรับแนวต้าน, Pattern ต่างๆ หรือแม้กระทั่ง Indicator เราสามารถตัดสินได้ว่าจะเข้าเทรด “เร็ว” หรือ “ช้า” กว่าสัญญาณที่เกิด ถ้าให้เห็นภาพคือ เมื่อราคากำลังลงมาทดสอบแนวรับ เราจะรับเลย หรือว่า รอให้ราคายืนได้ก่อนค่อยเข้าเปิด Long , หรือเมื่อ RSI ลงสู่เขต Oversold ต่ำกว่า 30 จะเข้าซื้อเลย หรือว่ารอให้ราคาวกตัวขึ้นกลับเหนือบริเวณดังกล่าว ซึ่งคำถามนี้เป็นที่มึนงงสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ส่วนมากว่าตกลงแล้วแบบไหนดีกว่ากัน
จากกราฟข้างต้น ตัวอย่างการเทรดรูปแบบ Head and shoulders จะเห็นได้ว่าเราสามารถเทรดได้ 2 แบบ คือ เข้าเทรดก่อนที่จะทะลุเส้น Neckline กับ รอทะลุเส้น Neckline ลงมาก่อน เพื่อยืนยันรูปแบบ
ซึ่งหลายคนหากดูภาพคร่าวๆ แล้วจะเห็นว่าการเข้าเทรดก่อนจะได้ราคาที่ดีกว่า แต่อย่าลืมว่าโอกาสการผิดพลาดนั้นก็จะมีเยอะกว่าเช่นเดียวกัน ซึ่งเทรดเดอร์ต้องมีชั่งน้ำหนักกันดูว่า เราชอบแบบไหน การเทรดสไตล์ใดเหมาะสมกับเรา ซึ่งต้องบอกว่าแต่ละแบบนั้นมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป
เข้าเทรดก่อน
ข้อดี : ได้ราคาดีกว่า , ผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงดีกว่า (Stop สั้น Target ไกล) และ ไม่ต้องรอนาน
ข้อเสีย : โอกาสผิดพลาดเยอะ , เจอ False signal บ่อย , เทรดบ่อย
เข้าเทรดหลัง
ข้อดี : โอกาสผิดพลาดน้อย , การจัดการกับอารมณ์ได้ง่ายกว่า , เทรดน้อยกว่า
ข้อเสีย : ต้องรอให้เป็น , ผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงด้อยกว่า
ซึ่ง 2 แบบนี้ มีข้อดีข้อเสียที่ต้องบอกว่าตรงกันข้ามกันเลยทีเดียว ไม่มีอันใดดีกว่า หรือแย่กว่า มันขึ้นอยู่กับว่าเทรดเดอร์ชอบแบบไหนมากกว่า แต่ถ้าให้แนะนำกันจริงๆ การเข้าช้านั่นค่อนข้างเหมาะสมกว่าสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ เพราะได้ฝึกการรอ , ความยากในการจัดการภาวะทางอารมณ์นั้นน้อยกว่าการเข้าก่อน เพราะไม่ต้องเทรดบ่อย ไม่ต้องคัทบ่อย ทำให้การเทรดนั้นง่ายกว่า มีเวลาตัดสินใจ และทบทวนการเทรดมากกว่า
ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่สุดของการเทรดคือหาสไตล์การเทรดที่เหมาะสมกับตัวเราให้ได้ เพราะเราต้องใช้มันไปตลอด หากสิ่งไหนไม่ใช่สำหรับเรา เราจะอยู่กับมันได้ไม่นาน และที่สำคัญกลยุทธ์ที่เราเลือกใช้ต้องสามารถสร้างผลตอบแทนโดยรวมให้ออกมาเป็นบวกในระยะยาวให้ได้ ถึงจะสามารถอยู่รอดในตลาดแห่งนี้ได้ครับ
ทีมงาน : thaiforexbroker.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น